วิธีเขียน Cover Letter

คู่มือการเขียนจดหมายแนะนำตัวให้โดดเด่นและสนับสนุนเรซูเม่ของคุณอย่างมืออาชีพ!

การเขียนจดหมายแนะนำตัว (Cover Letter) ถือเป็นส่วนสำคัญในการสมัครงานที่หลายคนมักมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วจดหมายนี้สามารถสร้างความประทับใจแรกที่ดีให้กับผู้ว่าจ้างได้ ถ้าคุณสามารถเขียนมันออกมาได้อย่างดีเยี่ยม มันจะช่วยเสริมสร้างความน่าสนใจในเรซูเม่ของคุณ และทำให้คุณโดดเด่นในสายตาผู้ว่าจ้างได้มากขึ้น

ในบทความนี้เราจะแนะนำเคล็ดลับวิธีเขียน Cover Letter ที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จในการสมัครงานมากยิ่งขึ้น

1. เริ่มต้นด้วยการทักทายที่เหมาะสม

การเริ่มต้นจดหมายแนะนำตัวด้วยการทักทายที่เหมาะสมเป็นการแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ โดยการใช้ชื่อของผู้ที่รับจดหมาย (หากทราบ) จะทำให้จดหมายดูเป็นส่วนตัวและมีความสนใจมากขึ้น เช่น:

• “เรียน คุณ [ชื่อผู้รับ]”
• “ถึงทีมงานฝ่ายบุคคลของ [ชื่อบริษัท]”

หากไม่ทราบชื่อผู้รับ คำทักทายทั่วไปก็สามารถใช้ได้ เช่น:

• “เรียนท่านที่เกี่ยวข้อง”
• “ถึงผู้จัดการฝ่ายบุคคล”

2. แนะนำตัวเองให้กระชับและตรงประเด็น

ในย่อหน้าแรกของ Cover Letter ควรแนะนำตัวเองอย่างชัดเจน โดยเริ่มต้นด้วยการบอกชื่อและตำแหน่งงานที่คุณสนใจสมัคร พร้อมกับบอกให้ผู้รับรู้ว่าทำไมคุณถึงสนใจในตำแหน่งนี้ ตัวอย่าง:

“สวัสดีครับ/ค่ะ, ดิฉัน/ผมชื่อ [ชื่อ] และสนใจสมัครงานในตำแหน่ง [ชื่อตำแหน่ง] ที่บริษัท [ชื่อบริษัท] เนื่องจากความสนใจใน [ลักษณะงาน] และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ [อธิบายสาเหตุที่สนใจในตำแหน่งนั้น]”

3. แสดงให้เห็นว่าคุณเหมาะสมกับตำแหน่งที่สมัคร

ในย่อหน้าถัดไป คุณควรจะพูดถึงทักษะและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณสมัคร และอธิบายว่าทักษะเหล่านั้นจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในงานนี้ได้อย่างไร พยายามให้คำตอบตรงกับความต้องการของตำแหน่งที่บริษัทระบุไว้ในประกาศรับสมัครงาน ตัวอย่าง:

“จากประสบการณ์ที่ทำงานในตำแหน่ง [ตำแหน่งที่เคยทำ] ที่ [ชื่อบริษัท] ดิฉัน/ผมมีความเชี่ยวชาญในด้าน [ทักษะที่เกี่ยวข้อง] และสามารถ [ยกตัวอย่างการใช้ทักษะในการทำงาน] ซึ่งจะช่วยให้ดิฉัน/ผมสามารถมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสำเร็จให้กับทีมงานของบริษัทได้”

4. แสดงความรู้จักกับบริษัทและเหตุผลที่คุณเลือกสมัครที่นี่

ในส่วนนี้ คุณสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณทำการศึกษาเกี่ยวกับบริษัท และเข้าใจถึงวิสัยทัศน์และค่านิยมของบริษัทนั้น ๆ การพูดถึงสาเหตุที่คุณสนใจทำงานที่บริษัทนี้จะแสดงถึงความมุ่งมั่นและความสนใจที่แท้จริงในการร่วมงานกับพวกเขา ตัวอย่าง:

“ดิฉัน/ผมได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท [ชื่อบริษัท] และรู้สึกประทับใจกับการที่บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการ [สิ่งที่บริษัททำ เช่น ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด] และเชื่อมั่นว่าค่านิยมนี้จะสามารถช่วยให้ดิฉัน/ผมมีโอกาสเติบโตในสายอาชีพได้อย่างมั่นคง”

5. เชื่อมโยงประสบการณ์ของคุณกับความต้องการของบริษัท

เพื่อเพิ่มความน่าสนใจใน Cover Letter ของคุณ ควรจะพูดถึงประสบการณ์ที่เคยทำมาและแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทได้ ตัวอย่าง:

“ในระหว่างการทำงานที่ [ชื่อบริษัทหรือโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้อง] ดิฉัน/ผมได้พัฒนาทักษะในการ [ทักษะที่เกี่ยวข้อง] และสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียนรู้มาในการดำเนินงานใน [ด้านที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร] ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดิฉัน/ผมมั่นใจว่าประสบการณ์นี้จะช่วยให้ดิฉัน/ผมสามารถทำงานในตำแหน่ง [ชื่อตำแหน่ง] ได้อย่างเต็มที่”

6. สรุปและขอการตอบรับ

ในย่อหน้าสุดท้าย ควรแสดงความสนใจในการสัมภาษณ์ และขอบคุณผู้รับที่พิจารณาจดหมายของคุณ รวมถึงแสดงความมั่นใจว่าเรซูเม่ของคุณจะช่วยให้ผู้ว่าจ้างเห็นถึงศักยภาพของคุณ ตัวอย่าง:

“ดิฉัน/ผมยินดีที่จะได้มีโอกาสพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการที่ดิฉัน/ผมสามารถมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสำเร็จให้กับทีมงานของบริษัท [ชื่อบริษัท] หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของดิฉัน/ผม ดิฉัน/ผมยินดีที่จะส่งเอกสารเพิ่มเติมและพร้อมที่จะนัดสัมภาษณ์ในเวลาที่ท่านสะดวก ขอบพระคุณที่ให้ความสนใจในใบสมัครของดิฉัน/ผม”

7. การปิดท้ายจดหมาย

ปิดท้ายจดหมายด้วยการใช้คำขอบคุณและชื่อของคุณ ตัวอย่างการปิดท้าย:

“ขอบคุณค่ะ/ครับ,
[ชื่อเต็ม]”

สรุปวิธีเขียน Cover Letter ที่มีประสิทธิภาพ

การเขียน Cover Letter ที่ดีไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งาน แต่ยังสามารถทำให้คุณโดดเด่นในสายตาผู้ว่าจ้าง การแสดงความมั่นใจในทักษะและประสบการณ์ที่คุณมี พร้อมกับการเน้นให้เห็นถึงความสนใจในบริษัทและตำแหน่งที่สมัครจะทำให้จดหมายของคุณมีความน่าสนใจและเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น จำไว้ว่า Cover Letter เป็นโอกาสที่จะทำให้ผู้ว่าจ้างเห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามของคุณในการเข้าร่วมองค์กรนั้น ๆ และควรทำให้จดหมายนี้เหมาะสมกับตำแหน่งงานและบุคลิกของคุณเองที่สุด!